พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 3.โอวาทวรรค 4.อามิสสิกขาบท อนาปัตติวาร
ติกทุกกฏ
กรรมที่ทำไม่ถูกต้อง ภิกษุสำคัญว่าเป็นกรรมที่ทำถูกต้อง กล่าวอย่างนี้ ต้อง
อาบัติทุกกฏ
กรรมที่ทำไม่ถูกต้อง ภิกษุไม่แน่ใจ กล่าวอย่างนี้ ต้องอาบัติทุกกฏ
กรรมที่ทำไม่ถูกต้อง ภิกษุสำคัญว่าเป็นกรรมที่ทำไม่ถูกต้อง กล่าวอย่างนี้
ต้องอาบัติทุกกฏ
อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[168] 1. ภิกษุกล่าวหาภิกษุผู้สั่งสอนเพราะเห็นแก่จีวร เพราะเห็นแก่
บิณฑบาต เพราะเห็นแก่เสนาสนะ เพราะเห็นแก่คิลานปัจจัย
เภสัชบริขาร เพราะเห็นแก่สักการะ เพราะเห็นแก่ความเคารพ
เพราะเห็นแก่ความนับถือ เพราะเห็นแก่การกราบไหว้ เพราะ
เห็นแก่การบูชาตามปกติ
2. ภิกษุวิกลจริต
3. ภิกษุต้นบัญญัติ
อามิสสิกขาบทที่ 4 จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 3.โอวาทวรรค 5.จีวรทานสิกขาบท นิทานวัตถุ
3. โอวาทวรรค
5. จีวรทานสิกขาบท
ว่าด้วยการถวายจีวร
เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง
[169] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเที่ยวบิณฑบาตไป
ตามถนนสายหนึ่ง ภิกษุณีรูปหนึ่งก็เที่ยวบิณฑบาตไปตามถนนสายเดียวกันนั้น
ทีนั้น ภิกษุได้กล่าวกับภิกษุณีรูปนั้นดังนี้ว่า ไปเถิด น้องหญิง ที่โน้นมีผู้ถวาย
ภิกษา ภิกษุณีก็กล่าวอย่างนี้ว่า ไปเถิด พระคุณเจ้า ที่โน้นมีผู้ถวายภิกษา ภิกษุ
และภิกษุณีทั้ง 2 รูปนั้นจึงเป็นเพื่อนกัน เพราะพบกันอยู่เนือง ๆ
ต่อมา ภิกษุผู้เป็นเจ้าหน้าที่แจกจีวรกำลังแจกจีวรของสงฆ์ ภิกษุณีรูปนั้นไปรับ
โอวาท แล้วเข้าไปหาภิกษุรูปนั้นถึงที่อยู่ ครั้นถึงแล้วได้ไหว้ภิกษุรูปนั้น แล้วยืน ณ
ที่สมควร
ภิกษุผู้เป็นเพื่อนรูปนั้นได้กล่าวกับภิกษุณีรูปนั้นผู้ยืนอยู่ ณ ที่สมควรว่า น้อง
หญิง นี้จีวรส่วนแบ่งของเรา เธอจะรับหรือไม่
ภิกษุณีตอบว่า รับ เจ้าข้า เพราะดิฉันมีจีวรเก่า
ทีนั้น ภิกษุนั้นจึงได้ให้จีวรแก่ภิกษุณีรูปนั้น ส่วนตนเองก็ยังคงใช้จีวรเก่า
ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวกับภิกษุนั้นดังนี้ว่า ท่าน บัดนี้ท่านจงตัดเย็บจีวรของ
ท่าน
ลำดับนั้น ภิกษุรูปนั้นจึงบอกเรื่องนั้นให้ภิกษุทั้งหลายทราบ
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุ
จึงให้จีวรแก่ภิกษุณีเล่า ครั้นภิกษุเหล่านั้นตำหนิภิกษุนั้นโดยประการต่าง ๆ แล้ว
จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ